Time in Thailand

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

Goolike Herb 4.คุณค่าทางยาของมะม่วง

**คุณค่าทางยาของมะม่วง** มะม่วงที่เรารู้จักกันดีถ้าไม่ใช่มะม่วงน้ำปลาหวานก็ข้าวเหนียวมะม่วงรึไม่ก็ฝีมะม่วง แต่มักไม่ค่อยมีใครรู้ค่าทางยาของมะม่วงซึ่งมีอยู่ตลอดลำต้น ใช้รักษาโรคได้นับสิบเลยค่ะ แต่ขอหยิบตัวอย่างง่ายๆใกล้ตัวมาเป็นแซมเปิ้ลก่อนวันหลังค่อยว่ากันอีก..นะคะ แก้ไอ นี่ต้องใช้ใบสดมาชงแบบชงชา จิบแบบจิบชา แก้ไอได้แน่ๆ ฝ่าเท้าแตก ใช้น้ำคั้นจากผลมะม่วงดิบหรือน้ำคั้นจากใบ หรือยางจากต้นก็ได้ ทาส้นเท้าวันละ 3-4 ครั้ง แ้ก้ส้นเท้าแตกดีค่ะ เบาหวาน ใช้ใบอ่อนตากแห้งและบดเป็นผง กินครั้งละ 5 ช้อนคาวตอนเช้าวันละ 1 ครั้ง ช่วยบรรเทาเบาหวานได้ดี ลดความดันโลหิต..เอา่กาฝากจากต้นมะม่วงมาต้มกินต่างน้ำ ทำให้ความดันลดลงค่ะ แล้วก็ถ้าจะขับพยาธิก็ให้ใช้เม็ดใน คือเม็ดที่เอาเปลือกแข็กออกแล้วไปตากแห้งบดเป็นผงกินครั้งละครึ่งถึง 1 ช้อนชา ในตอนเช้าช่วยพยาธิโดยเฉพาะตัวกลม และถ้าคุณเขี้ยวใบกับก้านใบมะม่วงทุกเช้า เหงือกคุณจะแข็งแรงค่ะ เห็นไหมค่ะ มะม่วงต้นหนึ่งมีค่าขนาดไหน...นี่ขนาด เบาะๆนะ!

GooLike Herb 3.สรรพคุณฟ้าทะลายโจร

**สรรพคุณฟ้าทะลายโจร** ฟ้าทะลายโจร ชื่อนี้ฟังดุเดือดนักเหมือนชื่อหนังไทย นะคะ แต่ความจริงไม่ใช่ เป็นชื่อสมุนไพรคุณภาพเยี่ยม เหมาะจะปลูกใส่กระถางไว้ในบ้านสักต้นหรือกอหนึ่ง เผื่อคนในบ้านหรือเพื่อนบ้าน มีอาการอย่างนี้ ปวดฟัน ปวดร้าวไปถึงกกหู ให้ถอนฟ้าทะลายโจรมาสักต้น เด็ดใบแก่ให้ได้ 1 กำมือใส่ครกโขลกกับเกลือ ให้มีรสเค็มสักหน่อย ใช้อมแก้ปวดฟันได้ค่ะ แม้จะขมอยู่บ้าง หรือ..มีเม็ดตุ่มขึ้นที่โคนลิ้น และมีอาการไอหนัก ให้ถอนฟ้าทะลายโจร มาหนึ่งกำมือ ต้มนานราว 20 นาที แล้วใช้กิน 2-3 ถ้วย อาการไอจะหายไป ไม่เจ็บคอและกลืนน้ำลายได้สะดวก นี่แหละค่ะสรรพคุณของฟ้าทะลายโจร!

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

GooLike Herb 2.แบบกล้วยๆ

**แบบกล้วยๆ** กล้วยน้ำหว้าบ้านเรานี่อาภัพชะมัดเลย พอๆกับนักเขียนการ์ตูนนั่นแหละ กล้วยมักถูกดูหมิ่นเสมอ อะไรง่ายๆ ก็ว่าเรื่องกล้วยๆดูเอาเถอะ ทั้งๆกล้วยน่ะมีประโยชน์ทางยาตั้งแต่รากยันยอดเลย รักษาอาการอะไร ต่อมิอะไรได้เยอะแยะอย่างเช่น *ประจำเดือนขัด ใช้ดอกกล้วย 1 กำมือล้างน้ำให้สะอาด ต้มกับน้ำ 3 แก้ว ให้เดือดนานราว 20 นาทีกินน้ำยาวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 แก้ว ขนานนี้เป็นของฟิลิปปินส์ครับ มีผลทางขับประจำเดือน หรือ*ปวดท้องเป็นประจำ ตำหรับนี้เป็นของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ครับ ท่านให้เอาเปลือกกล้วยน้ำหว้า 3 กำมือ ใส่หม้อดินเติมน้ำตามลงไป พอให้ท่วมยา ต้มให้เดือดนานครึ่งชั่วโมง น้ำยาที่ได้ใช้กินครั้งละ 1 ถ้วยชาจีน ก่อนอาหารเช้าเย็น มีสรรพคุณแก้ริดสีดวงลำไส้ทำให้ปวดท้องเป็นประจำ... นี่แหละครับ เรื่องกล้วยๆ!

GooLike Herb 1. กล้วยแก้เพลีย

**กล้วยแก้เพลีย** กล้วย ชื่อนี้ ฟังแล้วรื่นหู หมายถึง ง่ายดายพอๆกับหมู จนถึงกับมีคำว่า "หวานหมู"รึ "ปอกกล้วยเข้าปาก" นักเรียนนักศึกษามักพูดกันติดปากตอนเข้าสอบ แต่เืรื่องกล้วยไม่กล้วยหรอกน่ะค่ะ ยิ่งใหญ่ในคุณค่าน่าดูเชียว ในกล้วยลูกหนึ่ง มีคาร์โบไฮเดรตให้พลังงานถึง 25% มีวิตามินเอ บำรุงสายตา-บีรวม บำรุงประสาท-ซี ป้องกันลักปิดลักเปิด อยู่มากเลยค่ะ รองลงมาคือวิตามินจีและอี แล้วยังมีแร่ธาตุ อีกด้วย อย่างมากก็คือธาตุเหล็ก บำรุงเลือด และโปแตสเซี่ยม อย่างพอประมาณก็มี แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส บำรุงกระดูก โซเดียม แม็กนีเซี่ยม แมงกานีส ทองแดง กำมะถัน คลอรีน ซิลิการ์ และที่มีอยู่เล็กน้อยก็คือ ไอโอนดีน อลูมิเนียม สังกะสี โคบอล และสารหนู ทั้งหมดนี้ล้วนจำเป็นแก่ร่างกาย แม้ร่างกายจะต้องการในปริมาณน้อย แต่ก็ขาดไม่ได้นะคะ ถ้ารู้สึกอ่อนเพลียละก็ หากล้วยน้ำหว้าสุกมากินเถอะ กินทุกวันเป็นประจำตลอดไปก็ยิ่งดีค่ะ ในจีนเขาใช้กล้วยดิบแก่ๆ นึ่งให้สุก ตากแห้งและบทเป็น ผง ใช้กินบำรุงกำลัง แต่กล้วยน้ำหว้าบ้านเรากินสุกๆ ดีจริงๆ หวีละ 5 บาทเท่านั้นคะ!

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

สมุนไพรให้คุณมาก หากใช้ผิดพลาดเกิดโทษได้


*ถ้ายาใดไม่เคยกินมาก่อน ควรเิริ่มกินแต่น้อย เช่นกินเพียงครึ่งหนึ่งของขนาดที่กำหนดให้ แล้วรอดูว่ามีการผิดปกติดเกิดขึ้นใน ร่างกายหรือไม่ ถ้าไม่มีจึงค่อยกินต่ำไป ....................................................................................................................................... **อย่าใช้ยาที่เข้มข้นเกินไป เช่น ยาที่บอกให้ต้มกินธรรมดา ก็ไม่ควรไปต้มเคี่ยว เพราะยาที่ได้จะเข้มข้นเกินไป ทำให้เกิดพิษได้ ........................................................................................................................................ ***ควรรู้พิษยาก่อนใช้ เพราะไม่มียาอะไรที่ไม่มีพิษ หรือควรรู้ข้อห้ามใช้ เพราะยาบางชนิดมีข้อห้ามให้ใช้กับคนบางคน การได้ รู้จักพิษหรือข้อห้ามใช้ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ........................................................................................................................................ ****ไม่ควรกินชนิดเดียวกันทุกวันนานๆ โดยไม่จำเป็น โดยทั่วไปไม่ควรกินยาอะไรก็ตามติดต่อกันทุกวันเกิน 1 เดือน เพราะจะ ทำให้เกิดพิษสะสมขึ้นได้ ......................................................................................................................................... *****คนที่อ่อนเพลียมากๆ เด็กอ่อนและคนชรา ห้ามใช้ยามาก เพราะคนเหล่านี้มีกำลังต้านทานยาน้อย จะทำให้เกิดพิษได้ง่าย

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

ประวัติของท่าน จุก เบี้่ยวสกุล


จุก เบี้ยวสกุล นักเขียนการ์ตูนไทยแห่งศตวรรษที่ ๒๐ ................................................................................................................................................ โดย สัมพันธ์ ก้องสมุทร ................................................................................................................................................ บ้านเกิดของท่าน ................................................................................................................................................ จุก เบี้ยวสกุล เป็นนามปากกาที่เขาตั้งขึ้นเองเพื่อใช้เป็นนามแฝงสำหรับเขียนนิยายภาพ ชื่อจริงของเขาคือ จุลศักดิ์ อมรเวช เกิดเมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นบุตรของนางฉาย และนายจวน อมรเวช บ้านเกิดของเขาคือซอยสารภี ย่านถนนลาดหญ้า ฝั่งธนบุรี ............................................................................................................................................... เริ่มเขียนการ์ตูนชิ้นแรก ............................................................................................................................................... ก่อนที่ จุลศักดิ์ อมรเวช จะเข้ามาเรียนเพาะช่าง เขาเริ่มเขียนการ์ตูนให้สำนักพิมพ์บางกอก ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือมีชื่อเสียงย่านถนนหลานหลวง งานเขียนการ์ตูนชิ้นแรกคือนิยายภาพเรื่อง จอมอภินิหาร (Superman) โดยเขียนต่อจากที่ หลังฉาก (ชุมพร แก้วสาร) เขียนค้างไว้ก่อนจะเสียชีวิต .............................................................................................................................................. ผลงานที่มีชื่อเสียงของท่านและผู้คนรู้จักมากในยุคนั้น .............................................................................................................................................. เจ้าชายผมทอง พระเอกที่ จุก เบี้ยวสกุล สร้างขึ้นเวลานั้น โดนใจคนอ่านทันที และได้รับการต้อนรับจากผู้อ่านอย่างอบอุ่น จิตวิทยาพื้นฐานของเยาวชนมักบูชาวีรบุรุษหรือคนเก่ง เมื่อเจ้าชายผมทองมีใบหน้าเหมือน เอลวิส เพรสลีย์ แรงจูงใจก็สูงอย่างเห็นได้ชัด เจ้าชายผมทอง จึงครองใจคนอ่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ............................................................................................................................................. สำหรับการเสียชีวิตของท่านหลักจากสร้างชื่อเสียงไว้มากมาย ............................................................................................................................................... จุลศักดิ์ อมรเวช หรือ จุก เบี้ยวสกุล ป่วยเป็นมะเร็งที่ปอดในช่วงปลายของชีวิต อายุ ๖๔ ปี เขาผ่านการฉายแสงที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ครบตามกำหนดของแพทย์ และรอดูอาการป่วยของมะเร็งขั้นที่ ๓ นางจวงจันทร์ สิทธิธรรม ภรรยาที่อุบลราชธานี แนะนำให้ขึ้นไปพักผ่อนกับลูกๆ หลานๆ ที่อุบลฯ เตรียมการที่จะไปรักษากับนายแพทย์อารีฯที่สกลนคร เมื่อลูกชายซึ่งมีครอบครัวและทำงานอยู่ในอเมริกา กลับมาถึงเมืองไทย เดินทางไปอุบลฯด้วยกัน คืนนั้นเขาก็เสียชีวิต สิ้นลมอย่างสงบที่บ้านอุบลราชธานี เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ศพของเขาได้ตั้งสวดพระอภิธรรม ๗ คืน ก่อนที่จะเก็บศพไว้ ๑๐๐ วัน เพื่อรอขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๗ ที่เมรุวัดพระธาตุหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ................................................................................................................................................. จุก เบี้ยวสกุล นักเขียนการ์ตูนไทยแห่งศตวรรษที่ ๒๐ ถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่ชื่อเสียงและผลงานของเขายังอยู่ในตำนานนักเขียนการ์ตูนไทย และอนุชนรุ่นหลังไปอีกนานแสนนาน...... ................................................................................................................................................... สัมพันธ์ ก้องสมุทร (ระย้า, จั๊กจั่น)
 .................................................................................................................................................. บรรณาธิการ หนังสือดอกโมกข์รายตรีมาส บรรณาธิการ หนังสือเรื่องสั้นวรรณกรรม สำนักพิมพ์วสี ครีเอชั่น ผู้บันทึก .................................................................................................................................................. ๑๙ กันยายน ๒๕๔๗ ........................................................................................................................................ (หมายเหตุ วินทร์ เลียววาริณ : ภาพผลงานส่วนใหญ่ของ จุก เบี้ยวสกุล / จุลศักดิ์ อมรเวช ในยุคต่างๆ ที่หาดูได้ยากมาก ถูกนำมาประกอบใหม่เป็นเรื่อง โลกใบที่สองของโม เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการอนุรักษ์ผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้) ........................................................................................................................................................ การจัดทำ website Gooherb. ข้าพเจ้ามีหนังสือของท่าน คู่มือคู่ครอบครัวเพื่ออยู่ดีมีสุขและประหยัด ชุดที่ 03 สมุนไพร ให้คุณค่า อยู่ในมือ และเก็บไว้ในฐานหิ้งพระมาเป็นเวลานาน และได้นั่งอ่าน และนำหลายวิธีที่แนะนำเรื่องสมุนไพรในเล่มนี้ มาใช้ประโยชน์ อย่างเห็นผล ข้าพเจ้านำมาเผยแพร่ เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อความรู้ เพราะตอนนี้ สังคมไทยเรา เริ่มลืมสมุนไพรในครัว ที่สามารถ นำมาทำประโยชน์ ได้มากกว่าการปรุงอาหารหลายเท่านัก ซึ่งบางครั้ง มันเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่เรากลับไม่ทราบเลย ........................................................................................................................................................ ขอขอบคุณหนังสือของท่าน จุก เบี้ยวสกุล ที่ทำให้คนรุ่นหลังได้อ่าน และศึกษาหาความรู้ต่อไป และหนังสือเล่มนี้ ข้าพเจ้าคงตกทอดให้สืบลูกถึงหลานอย่างแน่นอน เพราะยังเก็บรักษาไว้อย่างดี